‘ยันฮี’ ต่อยอดผู้นำตลาด Vitamin Water หลังส่ง “ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” ลงตลาดเจ้าแรกในไทย ประกาศหา “อาสาสมัครทดลองดื่มฯ”
บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ ตอกย้ำผู้นำตลาดน้ำเพื่อสุขภาพ หลังส่ง “ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” ครั้งแรกของเครื่องดื่มวิตามินผสมแคลเซียมจนติดตลาด ประกาศศึกเขย่าวงการอีกครั้ง ด้วยการจัดกิจกรรมมอบความรู้ด้านสุขภาพ ‘ภัยเงียบหากขาดแคลเซียม จนนำมาสู่โรคกระดูกพรุน’ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ภายใต้โครงการ “เสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง เพื่อยับยั้งภาวะกระดูกบางและโรคกระดูกพรุน” พร้อมดึงกลยุทธ์ ‘Trial’ เปิดรับอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงเป็นโรคดังกล่าวจำนวน 100 ท่าน ทดลองดื่มน้ำยันฮีแคลเซียมติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมวัดผลค่ามวลกระดูกหลังดื่มต่อเนื่องทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์จากการดื่มน้ำแคลเซียม เปิดโอกาสให้ทดลองสินค้า ดึงผู้บริโภคหันมาสนใจผลิตภัณฑ์
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ จำกัด และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวถึงที่มาว่า “โรคกระดูกพรุนถือเป็นภัยเงียบที่ทุกคนอาจมองข้ามไป สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะที่มีเนื้อกระดูกบางตัวลง ทำให้เสี่ยงต่อภาวะกระดูกหักหรือยุบตัวได้ง่าย ดังนั้นจึงควรได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ แต่ด้วยร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมเองได้ การได้รับแคลเซียมจึงต้องมาจากการรับประทานเท่านั้นไม่ว่าจากอาหารโดยตรงหรืออาหารเสริม
แต่ด้วยผู้บริโภคบางกลุ่มประสบปัญหาในการทานแคลเซียม อาทิ แพ้แลคโตสในนมวัว ไม่ชอบรับประทานแคลเซียมแบบเม็ดเพราะดูดซึมได้ยากจนทำให้มีอาการท้องอืดตามมา ซึ่งโดยทั่วไปมักเลือกทานแคลเซียมที่ดูดซึมยากโดยไม่รู้ จึงก่อให้เกิดปัญหาตามมา ด้วยเหตุนี้ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด ตระหนักถึงความสำคัญของการเกิดโรคดังกล่าว จึงได้ค้นคว้าและพัฒนา ‘ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์’ ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากที่สุด”
“สำหรับเครื่องดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ เป็นสินค้าใหม่ของยันฮี ที่พัฒนาโดยมีแนวคิดเพื่อมุ่งตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเสริมแคลเซียม แต่อาจประสบปัญหาในการทานแคลเซียม โดยเราใช้ Calcium Glycerophosphate ที่เป็น organic salt จาก ISALTIS สถาบันผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศส ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซึมง่ายกว่าแคลเซียมปกติ (Calcium Carbonate) ถึง 4 เท่า ละลายได้ดีทั้งในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ทำให้ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระดูกได้ดี ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า โดยใน 1 ขวด มีปริมาณแคลเซียมถึง 200 มก. ใกล้เคียงกับนม 1 แก้ว มีฟอสฟอรัส และวิตามินบี 12 สูงในแบบ 0 แคลอรี่ ไม่มีน้ำตาลและไม่มีแลคโตส รสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมของโยเกิร์ตช่วยให้สดชื่น ดื่มได้ทุกวัน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตลอดจนผู้สูงวัยและผู้ที่ต้องการเสริมสร้างแคลเซียม
นายแพทย์สุพจน์ กล่าวต่อไปว่า “ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวิตามินผสมแคลเซียมในครั้งนี้ เราต้องการทำให้ผู้บริโภคทราบถึงประโยชน์และภัยเงียบหากขาดแคลเซียม โดยได้รับเกียรติจาก นายแพทย์สุชาติ เลาบริพัตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน และแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย มาร่วมให้ความรู้รวมถึงแชร์ Case Study จริง เพื่อให้คนไทยทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของแคลเซียมและไฮไลท์สำคัญคือ เราได้เปิดรับอาสาสมัครที่มีช่วงอายุ 30 – 60 ปี เพื่อมาทดลองดื่มน้ำยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมวัดผลค่ามวลกระดูกก่อนและหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อดูผลลัพธ์
สำหรับการเปิดรับอาสาสมัครในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่อยู่ภายใต้ “โครงการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง” เราจะเปิดรับอาสาสมัครจำนวน 100 ท่าน ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ https://forms.gle/V8yqVJXRrRXbXowu7 โดยเปิดรับอาสาสมัคร ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เพศใดก็ได้ ที่มีอายุระหว่าง 30- 60 ปี โดยเราจะให้อาสาสมัครมาตรวจวัดมวลกระดูกฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลยันฮี หากท่านใดมีค่ามวลกระดูกต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด ทางยันฮีวิตามินวอเตอร์จะให้ทดลองดื่มยันฮีน้ำแคลเซียมวอเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำอย่างใกล้ชิด จากนั้นจึงมาวัดผลค่ามวลกระดูกหลังดื่มน้ำแคลเซียมต่อเนื่องทุกวันเพื่อให้อาสาสมัครทุกท่าน ได้ทราบถึงค่ามวลกระดูกของตัวเองและหาทางป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนในอนาคต นอกจากนี้ จะให้ทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์จริง ถือเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองดื่มผลิตภัณฑ์และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ทางด้าน ทพญ.สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริหาร บริษัท ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ และ บริษัท โอสถสภา ยันฮี เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันกระแสการดูแลสุขภาพถือเป็น Global Trend ที่มาแรง ผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ต่างให้ความสำคัญเพื่อนำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายและใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ จึงทำให้คนหันมามองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพคนรุ่นใหม่ ที่มีชีวิตเร่งรีบ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่บริโภคได้ง่าย และหาซื้อได้ทั่วไปเป็นที่นิยม ส่งผลให้ตลาดน้ำดื่มสุขภาพบ้านเราคึกคักเป็นพิเศษ โดยตัวเลขรวมตลาดน้ำดื่มในไทยมีมูลค่าประมาณ 1,900 ล้านบาทซึ่งแบ่งออกเป็นหลักๆ 3 Segment ได้แก่ น้ำดื่มธรรมดา, น้ำแร่ และน้ำวิตามินต่างๆ ซึ่งแบรนด์ยันฮี วิตามิน วอเตอร์ ยังคงมีสัดส่วนอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดในไทย ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ จัดอยู่ใน Segment ของน้ำวิตามิน และถือเป็นนวัตกรรมน้ำดื่มแคลเซียมเจ้าแรกในไทย บรรจุในขวดใสสะอาดขนาด 460 ml. วางจำหน่ายแล้วที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ และจะขยายสู่ช่องทาง Modern Trade อื่นๆ รวมถึงจะมีขนาด 350ml. ที่จะวางขายในช่องทางร้านค้าทั่วประเทศเร็วๆนี้อีกด้วย
สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย เราทำการตลาดอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ทั้ง online และ offline โดยครึ่งปีหลัง จะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับแคลเซียมผ่านแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนใช้กลยุทธ์ Trial ด้วยการเปิดรับอาสาสมัครให้มาทดลองดื่มยันฮีแคลเซียมวอเตอร์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยในตัวสินค้า และวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น ทั้งยังเป็นการวัด Feedback ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบ Sampling Activation สร้างการเข้าถึงยังกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม ตลอดจนเน้นสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมให้ความรู้และชี้ให้เห็นความสำคัญของแคลเซียม” ทพญ.สุชาวดี กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมเป็น 1 ใน “โครงการเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง” กับปฏิบัติการร่วมทดลองดื่ม “ยันฮี แคลเซียม วอเตอร์” น้ำแคลเซียมเจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมพิสูจน์บริบท “โรคกระดูกพรุนคือภัยเงียบ ทานแคลเซียมป้องกันได้” สามารถสมัครได้ที่ https://forms.gle/V8yqVJXRrRXbXowu7 ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 17 สิงหาคม 2566 รับอาสาสมัครจำนวน 100 ท่านเท่านั้น สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุคยันฮีวิตามินวอเตอร์ https://www.facebook.com/yanheevitaminwater หรือ โทร 1723