Sunday, December 22, 2024
Latest:
ประชาสัมพันธ์

OKMD + CMDF ปลื้ม Fin Lab สำเร็จเกินคาด เด็กเยาวชนร่วมกิจกรรมทะลุเป้า มั่นใจ ได้รับการติดปีกความรู้ด้านการเงินและการลงทุน และสามารถพัฒนาสู่นักลงทุนที่มีศักยภาพในอนาคต

ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ  OKMD แถลงผลสำเร็จตลอดปี 2567 ของ โครงการ Fin Lab : คาราวานความรู้ตลาดทุนรุกสู่ภูมิภาค และบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ (New Gen) เข้าสู่ตลาดทุน ร่วมกับ นายจักรชัย บุญยะวัตร ผู้อำนวยการ  กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ผู้สนับสนุนหลักของโครงการ นายเศรษฐพล ธรรมจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ นายชนินทร์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการศึกษา สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร

ดร.ทวารัฐ กล่าวว่า โคงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความเผยแพร่องค์ความรู้ทางการเงินผ่านตลาดทุนให้กับเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 13-18 ปี ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุน สร้างทัศนคติการลงทุนที่ดี รวมทั้งพัฒนาให้เป็นคนต้นแบบ ที่สามารถขยายผลองค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่คนรอบข้างและครอบครัว อันนำไปสู่การเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคต ซึ่งมีเครือข่ายพันธมิตรเข้าร่วมโครงการกว่า 70 หน่วยงาน โดยสามารถนำองค์ความรู้ทางการเงินการลงทุนไปขยายผลในรูปแบบต่างๆ หลากมิติ ทั้งมุมความรู้ในเชิงกว้าง และมุมความรู้ในเชิงลึก

“ความรู้ในเชิงกว้าง” ได้แก่ (1) Online Platform ที่เด็กทุกคนสามารถใช้เครื่องมือเข้าถึงข้อมูลจากคลิปองค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนที่เหมาะสมกับช่วงวัยทั้ง 6 ด้าน  ได้แก่ รายได้ การออม รายจ่าย การลงทุน การจัดการหนี้ และภัยการลงทุน โดยมีการเผยแพร่ผ่าน E-Book ที่เกี่ยวข้องกับทักษะการจัดการทางการเงิน การออม และการบริหารการลงทุนผ่านตลาดทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Knowledge Portal และ TK Read รวมทั้งสื่อออนไลน์ในโซเชียลมีเดีย เช่น FB TikTokและช่องทางออนไลน์ของ OKMD โดยมีผู้เข้าถึงองค์ความรู้มากกว่า 6 ล้านคน/ครั้ง (2) Knowledge Corner โดยพัฒนาการเชื่อมโยงและกระจายมุมความรู้ด้านการเงินการลงทุนในพื้นที่เป้าหมายโดยติดตั้งไว้ 14 แห่ง ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ลำปาง ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สิงห์บุรี ชลบุรี และภูเก็ต มีผู้เข้าถึงองค์ความรู้จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 จำนวนน 543,636 คน (3) Knowledge Kiosk Alive โดยการสร้างสรรค์ชุดความรู้เผยแพร่ผ่าน Kiosk TV ซึ่งนำเสนอความรู้ด้านการเงินการลงทุนและประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้การเงิน 24 แห่ง พร้อมติดตั้งไว้ที่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร อุดรธานี อุบลราชธานี สิงห์บุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรสาคร พังงา นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต สงขลา และกรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าถึงองค์ความรู้ จนถึงพ.ย. 2567 จำนวน 335,901 คน 

“ความรู้ในเชิงลึก” มุ่งเน้นในการพัฒนาคน ประกอบด้วย (1) Knowledge Market : การจัดตลาดนัดความรู้ในพื้นที่ 8 จังหวัด ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ขอนแก่น นครราชสีมา จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต และยะลา โดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ตลาดทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ และคาราวานความรู้จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายกว่า 32 หน่วยงาน โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจด้านการเงินการลงทุนจาก กองทุนการออมแห่งชาติ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สมาคมยุวชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วม 10,117 คน เกินความคาดหมายที่ตั้งเป้าไว้ที่ 3,500 คน (2) Fin Lab Online Bootcamp : การจัดค่ายอบรมบ่มเพาะ เชิงลึกออนไลน์ เน้นสร้างบุคลากรต้นแบบรุ่นใหม่ด้านการเงินและการลงทุนในภูมิภาค และพัฒนาต่อยอดเป็นต้นแบบคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีน้องๆ ระดับชั้นม.ต้น และม.ปลายกว่า 1,000 คนเข้าร่วมอบรม (3) กิจกรรม Fin Lab Hackathon : ฝึกฝนให้เยาวชนที่เข้าร่วมอบรม รวมทีมและระดมสมองจัดทำโครงงาน รู้จักวางแผน กำหนดเป้าหมาย และฝึกกระบวนการคิด วางแผนทางการเงิน บริหารผลตอบแทนและความเสี่ยง มีทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายมากกว่า 58 ทีม

ทีมชนะเลิศระดับ ม.ต้น ได้แก่ ทีมออมคำ Project จากร.ร.บ้านแม่ง่อนขี้เหล็ก จ.เชียงใหม่ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมDebt Free จากโรงเรียนดรุณสิกขาลัย ร.ร.นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ กรุงเทพฯ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Smart Money Life Gamification จากร.ร.เซนต์คาเบรียลและร.ร.โยธินบูรณะ กรุงเทพฯ

ทีมชนะเลิศในระดับ ม.ปลาย ได้แก่  ทีม isave aplication จากร.ร.วิสุทธรังษี และ ร.ร.กาญจนานุเคราะห์ จ.กาญจนบุรี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม ClearFinn ร.ร.หนองบัวพิทยาคาร จ.หนองบัวลำภู และร.ร.กาญจนาภิเษกวิทยาลัย จ.นครปฐม รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม AllFin จากร.ร.หาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยาจ.สงขลา

ยังมีการพัฒนาบอร์ดเกม The Fin Warrior : ยุทธการขยับเงิน เป็นชุดความรู้สำคัญ (Knowledge Kit) ภายใต้โครงการเพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้และเสริมทักษะด้านการเงิน การลงทุน ทั้งนี้ได้มีการสนับสนุนบอร์ดเกมให้กับโรงเรียน ครู และแหล่งเรียนรู้ 662 แห่ง ทั้งนี้ได้ผลิตสื่อในรูปแบบ Print and Play เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถ ดาวน์โหลดไปใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ได้ ผ่านเว็บไซต์ของ OKMD และเพจกระตุกต่อมคิดกับ Fin Lab

ผู้อำนวยการ OKMD กล่าวว่า เนื้อหาหลักที่ใช้ดำเนินการในแต่ละกิจกรรมนั้น ได้พัฒนาคอนเทนท์และสื่อที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เด็กและเยาวชนอายุ 13-18 ปี สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างทั่วถึง โดยมีการออกแบบหลักสูตรครอบคลุมเนื้อหาการเงินและการลงทุนใน 6 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. การวางแผนการเงิน การลงทุน 2. รายได้ 3. การบริหารรายจ่าย 4. การออม 5. การลงทุน 6. การบริหารหนี้ และภัยการลงทุน

ผู้อำนวยการ OKMD กล่าวเสริมอีกว่า กิจกรรมส่งท้ายของ Fin Lab คือการเปิดหลักสูตรอบรมเสริมทักษะทางการเงิน หรือ Fin Lab Online Bootcamp โดยเชิญกูรูทางการเงินมาให้ความรู้ เพื่อปลดล็อคปัญหาการเงินของคนไทยที่อยู่ในภาวะ “วัวหายล้อมคอก” จากกับดัก “หาได้เยอะ แต่ใช้ไม่พอ”  ส่วนหนึ่งคือการจัดการทางการเงินไม่เป็น ดังนั้นจึงควรมีทักษะ “ล้อมคอก” โดยผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความรู้เชิงกลยุทธ์ “หา ใช้ ออม ลงทุน ปกป้อง” ซึ่งก็คือความรู้ทางการเงินและตลาดทุน เพื่อเปลี่ยน Mindset โดยผู้เชี่ยวชาญได้ปูวิธีคิดแบบ Fin Mindset ซึ่งเป็นหลักคิดทางการเงินที่ดี โดยสอดแทรกเทคนิคและกลยุทธ์ในการนำเสนอไอเดียธุรกิจอย่างมืออาชีพ ทำความเข้าใจกระแสรายวัน ช่องทางการหาเงิน และวิธีการสร้างรายได้ ตลอดจนเรียนรู้การวางแผนทางด้านการเงิน การจัดการเงิน การบริหารการเงินส่วนบุคคล การวางแผนการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพรวมไปถึงเทคนิคการจัดการหนี้อย่างถูกต้อง ทางด้านการเงินและตลาดทุน นอกจากนี้ยังมีการจําลองการใช้ AI กับโปรเจค วิธีการดึงเทคโนโลยีเข้ามาบูรณาการ

ผู้อำนวยการ OKMD กล่าวด้วยว่า Fin Lab ถือเป็นโครงการที่อัพเกรดความรู้ด้านการเงินการลงทุนให้เด็กไทย ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของ CMDF และ OKMD ที่ต้องการเห็นเด็กและเยาวชนร่วมแบ่งปันมุมมองจากสิ่งที่ได้เรียนรู้และจะนำไปปรับใช้ในอนาคต ตั้งแต่การจัดการเรื่องการเงินของครอบครัว การตระหนักในด้านการเงินและรู้จักผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่จะลงทุนในอนาคตที่มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง การทำความเข้าใจว่าการเล่นหุ้นไม่ใช่อาชีพ ไปจนถึงความเท่าเทียมในการเข้าถึงความรู้ด้านการเงินการลงทุน สอดรับกับแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน พ.ศ. 2565-2570 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและภาครัฐได้มีมติเห็นชอบ ซึ่งเป็นนโยบายและกลไกบูรณาการการดำเนินการพัฒนาทักษะทางการเงินของประเทศ เพื่อนำไปสู่ความมั่งคั่งร่วมกันและลดความเหลื่อมล้ำในอนาคต

“ความสำเร็จในครั้งนี้ จะทำให้เกิดความยั่งยืนได้ทั้งในมิติของการเผยแพร่องค์ความรู้ทางการเงินผ่านตลาดทุนให้กับเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่ และสื่อการเรียนรู้ จะยังคงได้รับการถ่ายทอดสู่เด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ ผ่านโรงเรียน ครู อาจารย์ ที่ได้รับการสื่อและกระบวนการในการถ่ายทอดที่เหมาะสมเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการลงทุน และการวางแผนการเงินสำหรับตนเองต่อไป นอกจากนี้ ยังสามารถเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเด็กเยาวชน และคนรุ่นใหม่ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในด้านการเงิน การลงทุนผ่านตลาดทุน ให้มีความรู้ความเข้าใจ พฤติกรรมการออมและการลงทุนที่เหมะสม รวมทั้งพัฒนาให้เป็นคนต้นแบบ ที่สามารถขยายผลองค์ความรู้ดังกล่าวไปสู่คนรอบข้างและครอบครัว  สามารถเชื่อมโยงและเพิ่มแหล่งเรียนรู้องค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนในภูมิภาค เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงความรู้ด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุนให้แก่เด็กเยาวชน คนรุ่นใหม่ ประชาชนทั่วไป และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนในภูมิภาคได้”

“อยากให้ทุกท่านติดตาม โครงการ Fin Lab ผ่านช่องทางต่างๆ ของ OKMD และอยากให้ชวนลูกหลาน หรือแม้ตัวท่านเองเข้าร่วมกิจกรรมดีๆ ที่ทาง CMDF เป็นผู้ให้การสนับสนุน และ OKMD ทำหน้าที่เป็นผู้คัดสรรกิจกรรมกระตุกต่อมคิด ให้เข้าใจ เข้าถึง เรื่องการเงินและการลงทุนต่อไป” ดร.ทวารัฐ กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB กระตุกต่อมคิดกับ Fin Lab  และ TikTok : FinLabForFun