Wednesday, December 4, 2024
Latest:
ประชาสัมพันธ์ไลฟ์สไตล์

“ฟ้าอิงตะวัน” จากสาวขี้เมาสู่ ผู้ออกแบบเมนูอาหารเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต

ฟ้าอิงตะวัน คือ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ในอดีตเคยเป็นเจ้าของร้านเหล้า แต่เธอไม่ได้เป็นแค่เจ้าของร้านเท่านั้น ชีวิตของเธอกับวนเวียนอยู่กับเหล้าเกือบตอลด 24 ชม. จะไม่ยกแก้วเหล้าดื่มก็ตอนนอนเท่านั้น ดื่มกันทุกวันจนร่างกายเริ่มสะสมของเสีย จนตับเกือบพังกลายเป็นผู้หญิงหัวใจเพชรกระบวนกรและออกแบบหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต ด้วยอาหารที่มาจากสมุนไพร พืชผักพื้นบ้าน โดยใช้ตัวเองเป็นหนูทดลอง ผลลัพธ์ที่ได้ตับของเธอกลับมาเป็นปกติ

ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย จัดเวทีแถลงข่าว “ต้อนรับคนหัวใจเพชร ร่วมสร้างสรรค์สังคมสุขปลอดเหล้า” โดยมีนางสาวฟ้าอิงตะวัน ไวยกรรณ์   ผู้หญิงหัวใจเพชร กระบวนกรและออกแบบหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต ผู้ที่มีประสบการณ์และได้รับผลกระทบจากการดื่ม มาเป็นคนพัฒนาสูตรอาหารเป็นเมนูง่ายๆจากพืช ผัก สมุนไพรที่สามารถหาได้มาแปลงเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเสริมพลังตับให้กับสิงห์นักดื่ม สามารถทำกินเองได้ที่บ้าน

นางสาวฟ้าอิงตะวัน กล่าวว่า เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่ดื่มเหล้าเยอะมากดื่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยัน 6 โมงเย็น  ดื่มเยอะจนป่วย เลยไปหาหมอ ไปหาหมอที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์ของตนเอง เพราะร่างกายยังไม่ดีขึ้น จึงหันมาศึกษาเรื่องสมุนไพรด้วยตนเอง โดยไปเรียนกับครูทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จากนั้นได้นำความรู้ที่ได้มารับเปลี่ยนใช้กับตัวเองแล้วพบว่าร่างกายมันดีขึ้น

จากความคิดของตนเองที่คิดว่าจะเป็นมะเร็งตับ จึงหันมามาศึกษาเรื่องการล้างพิษในตับ และพบว่า ตับที่ถูกสะสมของเสียในรูปแบบต่างๆจะทำให้ตับของคนเรามีความอ่อนล้าดังนั้นเราจึงต้องหาอาหาร หรือสมุนไพรเข้ามาช่วยเสริมบำรุงตับ จึงกลายมาเป็นสูตรอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยขับของเสียและบำรุงตับ เช่น แพนเค้กข้าวโอ๊ต, น้ำสมุนไพรพลังหยิน “ล้างพิษแบบสึนามิ”,ดอกไม้กรอบ ร่างพิษออกจากร่าง,กล้วยกะทิ มินิพาวเวอร์ “เสริมพลังจากวันที่เหนื่อยล้า”,เมี่ยงดอกบัวและใบชะพลู เครื่องดื่ม เช่น ส้มปั่นพลังจี๊ด “ไล่พิษออกจากร่างกาย” รวมทั้งคอกเทลสมุนไพรสูตรต่างๆ

“หลังจากที่เรารู้สึกว่าการรักษาแบบวิทยาศาสตร์ไม่ได้ตอบโจทย์ของตนเอง จึงหันมาปรับเปลี่ยนทำมาเป็นเมนูอาหารตามความรู้ที่ได้เรียนมา หลังจากกินอาหารเหล่านี้ได้ 10 วัน แล้วกลับไปหาหมอ พบว่าค่าตับขอบตนเองที่สูงเป็นหลักพันกลับมาเท่ากับคนปกติ” นางสาวฟ้าอิงตะวัน กล่าว

นอกจากนี้ นางสาวฟ้าอิงตะวัน ยังได้แนะนำการบริโภคอาหารว่า ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด ควรรับประทานรสชาติอ่อนๆเพื่อไม่ให้อวัยวะต่างในร่างกายทำงานหนัก คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรทานของมัน ของทอด ควรทานอาหารที่ปราศจากน้ำมัน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใช้น้ำมันรำข้าวจะดีกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ ทั้งนี้พวกที่ดื่มจนตับเสีย ตับจะเริ่มร้อน จะใช้อาหารที่ปราศจากน้ำมัน หรือถ้าเป็นน้ำมันต้องเป็นนำมันที่ดีที่ตับสามารถขับออกมาได้ นั่นคือ น้ำมันรำข้าว เน้นการทานผักใบเขียว ผลไม้  ส่วนสมุนไพรที่บำรุงตับได้ดีและสามารถทานได้ทุกวันคือ ขิงและ ขมิ้น ต้องต้มเป็นน้ำดื่มกินทุกวัน มันช่วยให้เลือดเราไหลเวียนได้มีขึ้น เม็ดเลือดขาวดักจับเชื้อโรคได้ดีขึ้น เม็ดเลือดแดงกลมโต ซึ่งดีมากๆ จากจากนี้จะทานอาหารที่ย่อยง่ายไม่เป็นภาระกับตับ เพราะถ้าทานอาหารที่ย่อยยากตับจะผลิตน้ำดีเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาย่อยอาหาร ซึ่งหากเราทานต่อเนื่องร่างกายจะเห็นผลได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นน้ำรางจืด จะให้ทานแค่อาทิตย์ละ 1 วัน

ทั้งนี้ความรู้ที่นางสาวฟ้าอิงตะวันมีได้นำถูกนำมาถ่ายทอดความรู้ไปให้กับคนที่เข้ามาร่วมการอบรมที่จะมีคนมาเข้าร่วมครั้งละประมาณ 50-60 คน หลังจากนั้นจะมาพูดคุยกันพบว่าหลายคนจะบอกว่าขอบคุณและร่างกายเขาดีขึ้นมากๆ แทบจะไม่ต้องไปหาหมอแล้ว ระยะเวลาเมื่อทางสมุนไพรแล้วจะเห็นผลเริ่มตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป บางคนอาจจะเห็นผลในเดือนที่ 3-4 ก็ได้ ทั้งนี้จากกการอาหารให้ทานของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เพราะบางคนเป็นโรคไม่เหมือนกัน

สำหรับตัวอย่างของเมนูฟื้นฟูบำรุงตับที่สามารถได้ง่าย เช่น  สมุนไพรพลังหยิน “ล้างพิษแบบสึนามิ” ประกอบด้วยนำรางจืด 1 กำ กับใบเตย 3-5 ใบ มาต้มให้เดือด แล้วรอเย็นสักพัก ปั่นแตงกว่า 1 ลูกแยกกากออกมา นำน้ำที่ต้มสมุนไพรมาใส่แก้วตามด้วยน้ำแตงกวา 1 ช้อน เป็นอันเสร็จ น้ำรางจืด ใบเตย แตงกวา เครื่องดื่มสูตรนี้มีสรรพคุณช่วยปกป้องเซลล์ตับและไตจากพิษของสารเคมี รักษาโรคไข้หวัด โรคติดเชื้อในกระแสโลหิต และเชื้อโรคบางชนิด ช่วยลดความดันโลหิต ปรับระดับความดันหัวใจให้เป็นปกติ ขับสารพิษอย่างหนักจากสุราหรือสารพิษจากบุหรี่ และสารเคมีอื่นๆ แต่เครื่องดื่มตัวนี้มีฤทธิ์เย็นมาก ควรทานแค่อาทิตย์ละ 1 แก้ว เท่านั้น

เมนู Mojito Mocktail  ประกอบด้วย มะนาวหั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่ 10 ใบ เกลือครึ่งช้อนชา  น้ำมะนาว 20 ml น้ำผึ้ง 20 ml นำส่วนผสมทุกอย่างมาบดให้ละเอียด ก่อนจะนำมาเชคอีกครั้ง จากนั้นนำน้ำแข็งใส่แก้วตามด้วยน้ำสมุนไพรที่เชคโดยไม่ต้องกรอง จากนั้นเติมโซดาลงไป สรรพคุณ ใบสะระแหน่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของตับ แถมยังมีมะนาวช่วยขับสารพิษจากแอลกอฮอล์ และบำรุงตับให้แข็งแรงได้อีกด้วย

สุดท้ายนางสาวฟ้าอิงตะวัน กล่าวว่า  อยากจะบอกคนที่ยังดื่มว่า ถ้าเลิกได้ก็เลิก เพราะเลิกปุ๊ปร่างกายจะไม่ได้หายทันที อย่างพี่เลิกมาตั้ง 10 ปี อาการเจ็บป่วยเพิ่งจะมาออก ไม่ใช่ดื่มวันนี้แล้วเป็นเลย มันค่อยๆสะสมเป็นเวลายาวนาน 10-20 ปี กว่าจะออกอาการ ซึ่งเมื่อออกอาการมัยก็ระยะสุดท้ายแล้ว ทั้งนี้ที่เราใช้วิธีเอาสมุนไพรมาใช้ล้างพิษตับ คือการเอาพิษออกจากร่างกาย  แต่เราอย่าลืมเอาได้พิษที่มาจาก อาหาร อารมณ์ อากาศ เอาพิษออกด้วย และที่สำคัญอย่าลืมให้อภัยตัวเอง

ส่วนงานทางด้านวิชาการ  จากข้อมูลทางวิชาการของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ประเมินผลโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2566 ใน 12 จังหวัดทุกภูมิภาค พบว่า มีผู้เปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา 10.2 ล้านคนจากจำนวนผู้ที่ดื่มทั้งหมด 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 7.7 แสนคน แบ่งเป็นผู้งดดื่มตลอดพรรษา 21.3% (ประมาณ 5.3 ล้านคน) ผู้ที่งดบางช่วง 9.1% (ประมาณ 2.3 ล้านคน) และผู้ที่ไม่งดแต่ลดการดื่มลง 10.5% (ประมาณ 2.6 ล้านคน) โดยกลุ่มตัวอย่าง 66.3% ระบุว่าได้รับผลดีจากการลด ละ เลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา โดยเฉพาะสุขภาพร่างกาย-จิตใจดีขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยคนละ 1,506.97 บาท โดยรวมของประเทศประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าจากค่าใช้จ่ายในการดื่มที่ลดลง

โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ สสส.และ สคล. รวมทั้งภาคีเครือข่าย ได้ร่วมทำกิจกรรมการณรงค์ให้คนไทยงดเหล้า ซึ่งเราได้ใช้วิธีการรณรงค์ที่หลากหลาย โดยใช้เรื่องของสังคม เศรษฐกิจ องค์ความรู้ด้านต่าง รวมถึงความเชื่อ ศาสนา เข้ามามีบทบาทในการณรงค์ ผลที่ได้รับคือ กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ซึ่งคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะพบว่าหลังจากที่งดดื่มผลได้คือ มีสุขภาพที่ดี ประหยัดเงิน ซึ่งในงานวิจัยยังพบว่า ไม่มีการดื่มในระดับที่ปลอดภัย ดังนั้นการที่มีคนบอกว่าดื่มเท่านั้นเท่านี้จะดีต่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องไม่จริง

“ทั้งนี้การณรงค์ให้ชุมชนเป็นสุขปลอดเหล้าได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้ชุมชนเป็นสังคมปลอดเหล้า ”ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี  ประธานเครือข่ายงดเหล้า กล่าวว่า สคล. ร่วมกับ สสส. รณรงค์ส่งเสริมให้คนในสังคมห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สร้างพฤติกรรมด้านสุขภาพ ควบคู่ไปกับการจัดสภาพแวดล้อม นำสู่ Healthy Sobriety หรือสังคมสุขปลอดเหล้า เราเลือกได้ คนในสังคมสามารถเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ถูกครอบงำด้วยสิ่งเสพติด เป็นความสุขที่แท้จริง ผลการดำเนินโครงการฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2566 เกิดกลุ่มสตรีพลังเพชร 92 แห่ง มีชุมชนสู้เหล้าและชมรมคนหัวใจเพชร (งดเหล้ามากกว่า 3 ปี) 1,010 แห่ง และองค์กรร่วมรณรงค์ชวนช่วยชมเชียร์ 90 แห่ง มีผู้เข้าร่วมปฏิญาณตน จากชุมชนและอำเภอ ร่วมติดตามชวน ช่วย ชมเชียร์ 26,622 คน

ทั้งนี้ สคล. ยังคงรณรงค์งดเหล้าตลอดทั้งปี โดยช่วงออกพรรษาจนถึงเทศกาลปีใหม่ เตรียมรณรงค์แนวคิดNew Me Sobriety Celebration เชิญชวนประชาชนตั้งเป้าหมายสู่ชีวิตใหม่สุขปลอดเหล้า ภายใต้กิจกรรม SoBrink แบ่งปันสูตรม็อกเทลจากสมุนไพร สาธิต Sobriety Bar และการจัดกิจกรรมให้คนมาแฮงค์เอ้าท์แทนวงเหล้า สนใจสมัครเข้าร่วมผ่านเพจ Healthy Sobriety