“ฟ้าอิงตะวัน” จากสาวขี้เมาสู่ ผู้ออกแบบเมนูอาหารเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/03-1.jpg)
ฟ้าอิงตะวัน คือ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ในอดีตเคยเป็นเจ้าของร้านเหล้า แต่เธอไม่ได้เป็นแค่เจ้าของร้านเท่านั้น ชีวิตของเธอกับวนเวียนอยู่กับเหล้าเกือบตอลด 24 ชม. จะไม่ยกแก้วเหล้าดื่มก็ตอนนอนเท่านั้น ดื่มกันทุกวันจนร่างกายเริ่มสะสมของเสีย จนตับเกือบพังกลายเป็นผู้หญิงหัวใจเพชรกระบวนกรและออกแบบหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต ด้วยอาหารที่มาจากสมุนไพร พืชผักพื้นบ้าน โดยใช้ตัวเองเป็นหนูทดลอง ผลลัพธ์ที่ได้ตับของเธอกลับมาเป็นปกติ
ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย จัดเวทีแถลงข่าว “ต้อนรับคนหัวใจเพชร ร่วมสร้างสรรค์สังคมสุขปลอดเหล้า” โดยมีนางสาวฟ้าอิงตะวัน ไวยกรรณ์ ผู้หญิงหัวใจเพชร กระบวนกรและออกแบบหลักสูตรเสริมพลังตับ ฟื้นพลังชีวิต ผู้ที่มีประสบการณ์และได้รับผลกระทบจากการดื่ม มาเป็นคนพัฒนาสูตรอาหารเป็นเมนูง่ายๆจากพืช ผัก สมุนไพรที่สามารถหาได้มาแปลงเป็นเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อเสริมพลังตับให้กับสิงห์นักดื่ม สามารถทำกินเองได้ที่บ้าน
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/01.jpg)
นางสาวฟ้าอิงตะวัน กล่าวว่า เมื่อก่อนพี่เป็นคนที่ดื่มเหล้าเยอะมากดื่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยัน 6 โมงเย็น ดื่มเยอะจนป่วย เลยไปหาหมอ ไปหาหมอที่ไหนก็ไม่ตอบโจทย์ของตนเอง เพราะร่างกายยังไม่ดีขึ้น จึงหันมาศึกษาเรื่องสมุนไพรด้วยตนเอง โดยไปเรียนกับครูทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จากนั้นได้นำความรู้ที่ได้มารับเปลี่ยนใช้กับตัวเองแล้วพบว่าร่างกายมันดีขึ้น
จากความคิดของตนเองที่คิดว่าจะเป็นมะเร็งตับ จึงหันมามาศึกษาเรื่องการล้างพิษในตับ และพบว่า ตับที่ถูกสะสมของเสียในรูปแบบต่างๆจะทำให้ตับของคนเรามีความอ่อนล้าดังนั้นเราจึงต้องหาอาหาร หรือสมุนไพรเข้ามาช่วยเสริมบำรุงตับ จึงกลายมาเป็นสูตรอาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยขับของเสียและบำรุงตับ เช่น แพนเค้กข้าวโอ๊ต, น้ำสมุนไพรพลังหยิน “ล้างพิษแบบสึนามิ”,ดอกไม้กรอบ ร่างพิษออกจากร่าง,กล้วยกะทิ มินิพาวเวอร์ “เสริมพลังจากวันที่เหนื่อยล้า”,เมี่ยงดอกบัวและใบชะพลู เครื่องดื่ม เช่น ส้มปั่นพลังจี๊ด “ไล่พิษออกจากร่างกาย” รวมทั้งคอกเทลสมุนไพรสูตรต่างๆ
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/06.jpg)
“หลังจากที่เรารู้สึกว่าการรักษาแบบวิทยาศาสตร์ไม่ได้ตอบโจทย์ของตนเอง จึงหันมาปรับเปลี่ยนทำมาเป็นเมนูอาหารตามความรู้ที่ได้เรียนมา หลังจากกินอาหารเหล่านี้ได้ 10 วัน แล้วกลับไปหาหมอ พบว่าค่าตับขอบตนเองที่สูงเป็นหลักพันกลับมาเท่ากับคนปกติ” นางสาวฟ้าอิงตะวัน กล่าว
นอกจากนี้ นางสาวฟ้าอิงตะวัน ยังได้แนะนำการบริโภคอาหารว่า ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด ควรรับประทานรสชาติอ่อนๆเพื่อไม่ให้อวัยวะต่างในร่างกายทำงานหนัก คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่ควรทานของมัน ของทอด ควรทานอาหารที่ปราศจากน้ำมัน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใช้น้ำมันรำข้าวจะดีกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ ทั้งนี้พวกที่ดื่มจนตับเสีย ตับจะเริ่มร้อน จะใช้อาหารที่ปราศจากน้ำมัน หรือถ้าเป็นน้ำมันต้องเป็นนำมันที่ดีที่ตับสามารถขับออกมาได้ นั่นคือ น้ำมันรำข้าว เน้นการทานผักใบเขียว ผลไม้ ส่วนสมุนไพรที่บำรุงตับได้ดีและสามารถทานได้ทุกวันคือ ขิงและ ขมิ้น ต้องต้มเป็นน้ำดื่มกินทุกวัน มันช่วยให้เลือดเราไหลเวียนได้มีขึ้น เม็ดเลือดขาวดักจับเชื้อโรคได้ดีขึ้น เม็ดเลือดแดงกลมโต ซึ่งดีมากๆ จากจากนี้จะทานอาหารที่ย่อยง่ายไม่เป็นภาระกับตับ เพราะถ้าทานอาหารที่ย่อยยากตับจะผลิตน้ำดีเพิ่มมากขึ้นเพื่อมาย่อยอาหาร ซึ่งหากเราทานต่อเนื่องร่างกายจะเห็นผลได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นน้ำรางจืด จะให้ทานแค่อาทิตย์ละ 1 วัน
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/05.jpg)
ทั้งนี้ความรู้ที่นางสาวฟ้าอิงตะวันมีได้นำถูกนำมาถ่ายทอดความรู้ไปให้กับคนที่เข้ามาร่วมการอบรมที่จะมีคนมาเข้าร่วมครั้งละประมาณ 50-60 คน หลังจากนั้นจะมาพูดคุยกันพบว่าหลายคนจะบอกว่าขอบคุณและร่างกายเขาดีขึ้นมากๆ แทบจะไม่ต้องไปหาหมอแล้ว ระยะเวลาเมื่อทางสมุนไพรแล้วจะเห็นผลเริ่มตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป บางคนอาจจะเห็นผลในเดือนที่ 3-4 ก็ได้ ทั้งนี้จากกการอาหารให้ทานของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เพราะบางคนเป็นโรคไม่เหมือนกัน
สำหรับตัวอย่างของเมนูฟื้นฟูบำรุงตับที่สามารถได้ง่าย เช่น สมุนไพรพลังหยิน “ล้างพิษแบบสึนามิ” ประกอบด้วยนำรางจืด 1 กำ กับใบเตย 3-5 ใบ มาต้มให้เดือด แล้วรอเย็นสักพัก ปั่นแตงกว่า 1 ลูกแยกกากออกมา นำน้ำที่ต้มสมุนไพรมาใส่แก้วตามด้วยน้ำแตงกวา 1 ช้อน เป็นอันเสร็จ น้ำรางจืด ใบเตย แตงกวา เครื่องดื่มสูตรนี้มีสรรพคุณช่วยปกป้องเซลล์ตับและไตจากพิษของสารเคมี รักษาโรคไข้หวัด โรคติดเชื้อในกระแสโลหิต และเชื้อโรคบางชนิด ช่วยลดความดันโลหิต ปรับระดับความดันหัวใจให้เป็นปกติ ขับสารพิษอย่างหนักจากสุราหรือสารพิษจากบุหรี่ และสารเคมีอื่นๆ แต่เครื่องดื่มตัวนี้มีฤทธิ์เย็นมาก ควรทานแค่อาทิตย์ละ 1 แก้ว เท่านั้น
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/04.jpg)
เมนู Mojito Mocktail ประกอบด้วย มะนาวหั่นเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ ใบสะระแหน่ 10 ใบ เกลือครึ่งช้อนชา น้ำมะนาว 20 ml น้ำผึ้ง 20 ml นำส่วนผสมทุกอย่างมาบดให้ละเอียด ก่อนจะนำมาเชคอีกครั้ง จากนั้นนำน้ำแข็งใส่แก้วตามด้วยน้ำสมุนไพรที่เชคโดยไม่ต้องกรอง จากนั้นเติมโซดาลงไป สรรพคุณ ใบสะระแหน่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของตับ แถมยังมีมะนาวช่วยขับสารพิษจากแอลกอฮอล์ และบำรุงตับให้แข็งแรงได้อีกด้วย
สุดท้ายนางสาวฟ้าอิงตะวัน กล่าวว่า อยากจะบอกคนที่ยังดื่มว่า ถ้าเลิกได้ก็เลิก เพราะเลิกปุ๊ปร่างกายจะไม่ได้หายทันที อย่างพี่เลิกมาตั้ง 10 ปี อาการเจ็บป่วยเพิ่งจะมาออก ไม่ใช่ดื่มวันนี้แล้วเป็นเลย มันค่อยๆสะสมเป็นเวลายาวนาน 10-20 ปี กว่าจะออกอาการ ซึ่งเมื่อออกอาการมัยก็ระยะสุดท้ายแล้ว ทั้งนี้ที่เราใช้วิธีเอาสมุนไพรมาใช้ล้างพิษตับ คือการเอาพิษออกจากร่างกาย แต่เราอย่าลืมเอาได้พิษที่มาจาก อาหาร อารมณ์ อากาศ เอาพิษออกด้วย และที่สำคัญอย่าลืมให้อภัยตัวเอง
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/09-1.jpg)
ส่วนงานทางด้านวิชาการ จากข้อมูลทางวิชาการของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ประเมินผลโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2566 ใน 12 จังหวัดทุกภูมิภาค พบว่า มีผู้เปลี่ยนพฤติกรรมลด ละ เลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษา 10.2 ล้านคนจากจำนวนผู้ที่ดื่มทั้งหมด 24.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 มากถึง 7.7 แสนคน แบ่งเป็นผู้งดดื่มตลอดพรรษา 21.3% (ประมาณ 5.3 ล้านคน) ผู้ที่งดบางช่วง 9.1% (ประมาณ 2.3 ล้านคน) และผู้ที่ไม่งดแต่ลดการดื่มลง 10.5% (ประมาณ 2.6 ล้านคน) โดยกลุ่มตัวอย่าง 66.3% ระบุว่าได้รับผลดีจากการลด ละ เลิกดื่มในช่วงเข้าพรรษา โดยเฉพาะสุขภาพร่างกาย-จิตใจดีขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ยคนละ 1,506.97 บาท โดยรวมของประเทศประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าจากค่าใช้จ่ายในการดื่มที่ลดลง
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/07.jpg)
โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ สสส.และ สคล. รวมทั้งภาคีเครือข่าย ได้ร่วมทำกิจกรรมการณรงค์ให้คนไทยงดเหล้า ซึ่งเราได้ใช้วิธีการรณรงค์ที่หลากหลาย โดยใช้เรื่องของสังคม เศรษฐกิจ องค์ความรู้ด้านต่าง รวมถึงความเชื่อ ศาสนา เข้ามามีบทบาทในการณรงค์ ผลที่ได้รับคือ กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ซึ่งคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะพบว่าหลังจากที่งดดื่มผลได้คือ มีสุขภาพที่ดี ประหยัดเงิน ซึ่งในงานวิจัยยังพบว่า ไม่มีการดื่มในระดับที่ปลอดภัย ดังนั้นการที่มีคนบอกว่าดื่มเท่านั้นเท่านี้จะดีต่อสุขภาพจึงเป็นเรื่องไม่จริง
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/10.jpg)
“ทั้งนี้การณรงค์ให้ชุมชนเป็นสุขปลอดเหล้าได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้ชุมชนเป็นสังคมปลอดเหล้า ”ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/08-1.jpg)
เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ประธานเครือข่ายงดเหล้า กล่าวว่า สคล. ร่วมกับ สสส. รณรงค์ส่งเสริมให้คนในสังคมห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สร้างพฤติกรรมด้านสุขภาพ ควบคู่ไปกับการจัดสภาพแวดล้อม นำสู่ Healthy Sobriety หรือสังคมสุขปลอดเหล้า เราเลือกได้ คนในสังคมสามารถเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ถูกครอบงำด้วยสิ่งเสพติด เป็นความสุขที่แท้จริง ผลการดำเนินโครงการฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา ปี 2566 เกิดกลุ่มสตรีพลังเพชร 92 แห่ง มีชุมชนสู้เหล้าและชมรมคนหัวใจเพชร (งดเหล้ามากกว่า 3 ปี) 1,010 แห่ง และองค์กรร่วมรณรงค์ชวนช่วยชมเชียร์ 90 แห่ง มีผู้เข้าร่วมปฏิญาณตน จากชุมชนและอำเภอ ร่วมติดตามชวน ช่วย ชมเชียร์ 26,622 คน
![](http://guideofbangkok.com/wp-content/uploads/2023/12/11.jpg)
ทั้งนี้ สคล. ยังคงรณรงค์งดเหล้าตลอดทั้งปี โดยช่วงออกพรรษาจนถึงเทศกาลปีใหม่ เตรียมรณรงค์แนวคิดNew Me Sobriety Celebration เชิญชวนประชาชนตั้งเป้าหมายสู่ชีวิตใหม่สุขปลอดเหล้า ภายใต้กิจกรรม SoBrink แบ่งปันสูตรม็อกเทลจากสมุนไพร สาธิต Sobriety Bar และการจัดกิจกรรมให้คนมาแฮงค์เอ้าท์แทนวงเหล้า สนใจสมัครเข้าร่วมผ่านเพจ Healthy Sobriety