เปิดเกณฑ์ใหม่ กองทุน Thai ESG ลงทุนยั่งยืน พร้อมคืนภาษีมากกว่าเดิม
กองทุน Thai ESG กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการปรับเงื่อนไขใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจให้กับนักลงทุนหันมาลงทุนกับกองทุนประเภทนี้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนเงินลงทุนที่สามารถใช้สิทธิได้ รวมถึงลดระยะเวลาการถือครองให้สั้นลงกว่าเดิม
เงื่อนไขใหม่ Thai ESG แตกต่างจากเดิมอย่างไร?
กองทุน Thai ESG จัดตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุน สำหรับผู้ต้องการลงทุนระยะยาวในกิจการที่เน้นความยั่งยืนและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เงื่อนไขเดิมสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ ซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีระยะเวลาลงทุน 8 ปี
เมื่อช่วงกลางปี 2567 ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ฟื้นกองทุน LTF ซึ่งเป็นกองทุนฮิตของมนุษย์เงินเดือนที่หมดอายุไปตั้งแต่ปี 2562 สุดท้ายรัฐบาลไม่ฟื้น LTF แต่กลับเดินหน้าปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG ให้น่าสนใจมากขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้ (ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67)
- ขยายวงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้จากสูงสุดไม่เกิน 100,000 เป็น 300,000 บาท ไม่นับรวมกับ SSF / RMF
- ลดระยะเวลาถือครองจาก 8 ปี เหลือ 5 ปี
- สามารถใช้ลดหย่อนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569
กองทุน Thai ESG ลงทุนในอะไรได้บ้าง?
- หุ้นไทยที่เข้าเงื่อนไข ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วยบริษัทที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และมีธรรมาภิบาลดี (Governance) หรือตราสารหนี้ไทยที่มีความสำคัญด้านความยั่งยืน ESG Bond
- หุ้นใน SET / MAI ที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม, ESG หรือเปิดเผยข้อมูลก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน CG Rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาลในระดับและรูปแบบที่ ก.ล.ต. กำหนด
- Green Bond ตราสารหนี้ที่ผู้ออกระดมทุนเพื่อเอาเงินไปใช้ในโครงการหรือกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การสร้างอาคารสีเขียว และการผลิตพลังงานสะอาด
- Green Token
- หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากล
กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร?
- ผู้ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน Thai ESG
- ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมนอกเหนือจาก SSF/RMF
- มองเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน และเติบโตไปกับหุ้น ESG
ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนไม่ควรพลาดการลงทุน กองทุน Thai ESG ลดหย่อนภาษี กองยอดนิยม เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่เติบโตได้อย่างยั่งยืนมาแนะนำไว้เป็นทางเลือก
แนะนำกองทุน Thai ESG ยอดนิยม โอกาสรับผลตอบแทนอย่างยั่งยืน
กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน-ไทยเพื่อความยั่งยืน (KFTHAIESGA)
ลงทุนแบบสายลุยเพื่อโอกาสเติบโตไปกับหุ้นดัชนี
- มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำที่เติบโตไปพร้อมกับดัชนี SET ESG ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบผสมผสานระหว่าง Passive และ Active Management
- พอร์ตการลงทุน 90% ลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำใน SET ESG และอีก 10% จะใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า
- มีให้เลือกลงทุนได้ 2 แบบ คือ KFTHAIESGD มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล และ KFTHAIESGA แบบสะสมมูลค่า
กองทุนนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม นอกเหนือจากกองทุน SSF/RMF และ PVD
- ผู้ที่มีเงินได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี และไม่อยากลงทุนทุกปี
- ผู้ที่สามารถรับความผันผวนจากปัจจัยภายในประเทศ และสินทรัพย์ที่ลงทุนได้
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการลงทุนในหุ้นกลุ่ม ESG
กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรรัฐบาลไทยเพื่อความยั่งยืน-ไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า (KFGBTHAIESG-A)
ลงทุนแบบสายเซฟกับตราสารหนี้ภาครัฐไทย
- มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐคุณภาพสูง (Investment Grade) ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน
- ประมาณ 80% ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่มความยั่งยืน และประมาณ 20% ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เงินฝาก เพื่อสร้างสภาพคล่อง
กองทุนนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีนอกเหนือจากกองทุน SSF/RMF และ PVD
- ผู้ที่มีเงินได้ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี และไม่อยากลงทุนทุกปี
- ผู้ที่สามารถรับความผันผวนของตราสารหนี้ที่กองทุนนำเงินไปลงทุนได้
- ผู้ที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่ม ESG
กองทุน Thai ESG เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี ไม่อยากผูกมัดว่าต้องลงทุนทุกปี อีกทั้งระยะเวลาการถือครองก็ลดลงจากเดิม หากอยากเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับพอร์ตและโลก แต่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นนักลงทุนสายไหน สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน ควรเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีแบบไหนดี เรามีทีมที่ปรึกษาด้านวางแผนการเงินไว้คอยให้คำแนะนำ สามารถติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาได้ผ่านช่องทางโทรศัพท์ 02-296-5959 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผนภาษี ติดต่อกลับ
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุน Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาว และสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
บทความโดย
ปริตา ธิติปรีชาพล
กลุ่มบริการที่ปรึกษาทางการเงินส่วนบุคคล
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา