Wednesday, May 28, 2025
Latest:
ประชาสัมพันธ์

36 บทกวี คว้ารางวัลจากโครงการประกวดบทกวี 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดพิธีประกาศผลและมอลรางวัล โครงการประกวดบทกวี 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ และ การอ่านบทกวี “หลักทรัพย์แห่งชีวิต” ณ หอประชุม ศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบทกวี 36 ผลงานที่ได้รับรางวัลจากบทกวีที่ส่งเข้าประกวดมากกว่า 700 ผลงาน ที่ร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การวางแผนและบริหารเงิน มุ่งหวังที่จะส่งเสริมสุขภาวะทางใจ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และยังจรรโลงรักษาคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของไทย

ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์
ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ

ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ กล่าวว่า นอกจากบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเป็นศูนย์กลางการระดมทุนของภาคธุรกิจและการลงทุนของผู้มีเงินออมแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ภายใต้วิสัยทัศน์ “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” ดังนั้น ในโอกาสครบรอบการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ 50 ปี ในปี 2568 นี้ จึงได้จัดโครงการประกวดบทกวีขึ้น เพื่อถ่ายทอดบทบาทตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ประชาชนรับรู้ รวมทั้งบอกเล่าความสำคัญของความรู้ทางการเงินให้สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ในชีวิตประจำวัน ผ่านบทกวี ซึ่งโครงการประกวดบทกวีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยมีบทกวีส่งเข้าประกวดมากถึง 730 ผลงาน และมีบทกวีที่ ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล 36 ผลงาน ทั้งนี้ บทกวีที่ได้รับรางวัลทั้งหมดจะนำมาจัดพิมพ์ร่วมกับผลงานของกวีรับเชิญอีก 14 ผลงาน ในหนังสือ “50 บทกวี 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” เพื่อเผยแพร่ต่อไป

ดร. ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ 
ประธานกรรมการตัดสินรางวัล 
อดีตประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และนักเขียนรางวัลนราธิป

ดร. ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ กล่าวว่า โครงการประกวดบทกวีในครั้งนี้ ได้กำหนดแนวคิดการแต่งบทกวี คือ “ทรัพย์งอกเงย ชีวิตงอกงาม” หรือ “ตลาดหลักทรัพย์  ทรัพย์แห่งชีวิต” โดยผู้ที่ร่วมส่งบทกวีเข้าประกวดล้วนมีความสามารถในการสร้างสรรค์บทกวีที่มีเนื้อหาสื่อถึงการวางแผนและบริหารเงินเพื่อสร้างความมั่นคงมั่งคั่ง และยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน รวมถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการร่วมสร้างอนาคตเพื่อโอกาสของทุกภาคส่วน โดยได้รับเกียรติจากกวีระดับศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ อดีตนายกสมาคมภาษาและหนังสือ และอดีตรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สละเวลามาร่วมกันพิจารณาผลงานอย่างละเอียด ทั้งความไพเราะ ความงดงามทางวรรณศิลป์ เเละเนื้อหาที่สอดคล้องกับแนวคิดการแต่งบทกวีที่กำหนด

นางชมัยภร บางคมบาง 
ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ประจำปี 2557

นางชมัยภร บางคมบาง หนึ่งในกรรมการตัดสินรางวัลกล่าวว่า โครงการประกวดบทกวี 50 ปี นี้ ได้มีการกำหนดแนวคิดในการแต่งบทกวี ซึ่งแตกต่างจากการประกวดทั่วไปที่กวีมักสร้างสรรค์จากอารมณ์ส่วนตัว โดยผู้ที่ส่งผลงานต้องผสมผสานระหว่างเนื้อหา อารมณ์ และความรู้สึกของตนเอง สำหรับบทกวีที่ได้รับรางวัลทั้งหมด สะท้อนถึงงานกวีนิพนธ์อันเป็นงานมรดกของชาติ และยังเป็นการใช้เครื่องมือทางศิลปะเพื่อถ่ายทอดความสำคัญของการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินให้ตระหนักรู้และนำไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เห็นคุณค่าของงานกวีนิพนธ์และจัดโครงการประกวดบทกวีในครั้งนี้ขึ้น 

คณะกรรมการโครงการประกวดบทกวี 50 ปี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย 1) รอบคัดเลือกผลงานการประกวดรอบแรก ได้แก่ นางชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2557 นายเอกรัตน์ จิตรมั่นเพียร (นามปากกา “นายทิวา”) กวีรางวัลแสงสรรค์วรรณศิลป์ บรรณาธิการ นักเขียน สื่อมวลชน และคอลัมนิสต์ นายพินิจ นิลรัตน์ นักเขียนและคอลัมนิสต์ นายโชคชัย บัณฑิตศิละศักดิ์ กวีซีไรต์ รศ.ดร.สุปาณี พัดทอง กวี และอดีตผู้ช่วยคณบดี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2) รอบตัดสินผลงานการประกวดรอบรอง และรอบสุดท้าย ได้แก่ ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รศ. (พิเศษ) ดร.กฤษฎา  เสกตระกูล อดีตรองผู้จัดการ สายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผศ.ดร.สันติ กีระนันทน์ อดีตรองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นางสาวจิตติยา ธรรมสรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานทรัพยากรบุคคลและพัฒนาองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายอดุล จันทรศักดิ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2551 นางชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2557 นายกิตติศักดิ์ มีสมสืบ (นามปากกาศักดิ์สิริ มีสมสืบ) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2559 นักเขียนรางวัลซีไรต์ ผศ. สุวรรณา เกรียงไกรเพ็ชร์ ผู้อํานวยการ ศุมา สถาบันภาษาและวัฒนธรรม อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สำหรับ 36 ผลงานที่ได้รับรางวัล ประกอบด้วย 1) รุ่นนักเรียน ระดับไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า จำนวน 8 ผลงาน รางวัลชนะเลิศ รุ่นนักเรียน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 30,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “ทรัพย์ให้ชีวิต ด้วยแนวคิดหลักปรัชญา” โดย นางสาวพรรวินท์ ดังแก้วสี จ. สงขลา รางวัลรองชนะเลิศ มี 2 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัลรางวัลละ 15,000 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “ขุมทรัพย์แห่งชีวิต” โดย นางสาวนีรนาท ชลกุลจนา จ. ขอนแก่น และผลงานที่ 2 “รู้จักใช้ รู้จักออม” โดย นายรัชชานนท์ สุขแก้ว จ. นครศรีธรรมราช รางวัลชมเชย ทั้งหมด 5 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 3,000 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “5 ทศวรรษตลาดหลักทรัพย์: ทรัพย์มั่นคง คนมั่งคั่ง ชาติยั่งยืน” โดย นายกฤษกร สิงห์ฉลาด จ.ชลบุรี ผลงานที่ 2 “ขุมทรัพย์แห่งชีวา คือวิชาแห่งชีวิต” โดย นายปีฉลอง ทองสุข จ.ปราจีนบุรี ผลงานที่ 3 “ทรัพย์สินมั่งคั่ง ชีวิตมั่นคง” โดย นายธนวัฒน์ แสงห้าว จ.มหาสารคาม ผลงานที่ 4 “ฟันเฟืองแห่งความฝัน” โดย นางสาวอัยญาวีร์ พรหมวีระไชย จ.สมุทรปราการ และผลงานที่ 5 “หัวใจแห่งความเปลี่ยนแปลง” โดย นายบุญญกรินทร์ อาจเดช (นามปากกา “Yakarin”) จ.บุรีรัมย์  

2) รุ่นนักศึกษามหาวิทยาลัยหรือเทียบเท่า ระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่า จำนวน 9 ผลงาน รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 40,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “รถไฟเหาะการเงินแห่งชีวิต” โดย นายฐากร ผิวผ่อง จ. บึงกาฬ รางวัลรองชนะเลิศ มี 2 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัลรางวัลละ 20,000 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “ทรัพย์ชีวิตสัมฤทธิ์ผลบนเส้นแผน” โดย นางสาวชนาพร จิรชูพันธ์ จ.นนทบุรี และผลงานที่ 2 “เพียงเศษเหรียญ” โดย นางสาวศิริลักษณ์ คงแก้ว จ.นครศรีธรรมราช รางวัลชมเชย มีทั้งหมด 6 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 4,000 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “เงินตราใบมะยม” โดย นายอัศวุธ อุปติ กรุงเทพมหานคร ผลงานที่ 2 “ตลาดหลักทรัพย์ไทย ทรัพย์แห่งชีวิต พิชิตโอกาส” โดย นายวรโชติ ธรรมมา (นามปากกา “ว.ธรรมมา”) จ. สมุทรปราการ ผลงานที่ 3 “ทรัพย์ศาสตร์ ตลาดทรัพย์” โดย นายอัศวุธ อุปติ กรุงเทพมหานคร ผลงานที่ 4 “ปรัชญารังนกกระจาบ” โดย นางสาวปาริฌา รอดรวยรื่น จ. พัทลุง ผลงานที่ 5 “ปูทางวางฐานของชีวิต” โดย นางสาวสุนิสา วิราจันทร์ จ.ขอนแก่น และผลงานที่ 6 “ย่าให้ปลูกต้น “ทรัพย์” หลาย ๆ พันธุ์” โดย นายนพรัตน์ แสงทอง จ.สมุทรสาคร

3) รุ่นประชาชนทั่วไป ไม่จำกัดวุฒิการศึกษาและอายุ จำนวน 12 ผลงาน รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 50,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “ตลาดชีวิต หลักเศรษฐกิจเชื่อมโลก” โดย นายสกล ผดุงวงศ์ จ. ปัตตานี  รางวัลรองชนะเลิศ มี 2 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัลรางวัลละ 25,000 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “จากไดอารี่ของปู่…สู่มรดกของครอบครัว” โดย นายวิษณุ พุ่มสว่าง จ. ปราจีนบุรี และผลงานที่ 2 “50 ปี ที่อยู่เคียงคู่ชาติ” โดย นายนารถ กิตติวรรณกร (นามปากกา “ธาราวลี”) กรุงเทพมหานคร รางวัลชมเชย มีทั้งหมด 9 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 5,000 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “50 ปี ตลาดหลักทรัพย์ : ชาติมั่นคง ชนมั่งคั่ง ทรัพย์ยั่งยืน” โดย นายภูษิต ศรีมณี กรุงเทพมหานคร ผลงานที่ 2 “เคล็ดวิชาเงิน” โดย นายวีรพงศ์ วัฒนาวนิช  จ. สงขลา ผลงานที่ 3 “จากเบี้ยมะกะโท สู่หุ้นเซ็ท ‘ต้นทุน’ ความสำเร็จที่ยั่งยืน” โดย นายธำรงค์ ทาทอง (นามปากกา “วัฒนา ทาทอง”) จ. บุรีรัมย์  ผลงานที่ 4 “ชีพงอกงามหากรู้การบริหารเงิน” โดย นายธนวัฒน์ ทับทิมไทย จ. ประจวบคีรีขันธ์ ผลงานที่ 5 “ต้นไม้ความมั่งคั่งที่ยั่งยืน” โดย นายภูริภัทร เขียวบริบูรณ์ กรุงเทพมหานคร ผลงานที่ 6 “ทรัพย์แห่งชีวิต ตลาดแห่งอนาคต” โดย นายวชิระ สิงห์คง (นามปากกา “ว. ศิวะสิงห์”) จ. กำแพงเพชร ผลงานที่ 7 “มองสองมือ” โดย นายเมธาวี ก้านแก้ว จ. นครปฐม ผลงานที่ 8 “มืดมา สว่างไป เมื่อใช้เงินเป็น” โดย นายแมน คล้ายสุวรรณ กรุงเทพมหานคร และผลงานที่ 9 “แม่” โดย นายนรเศรษฐ์ ทับทิมทอง กรุงเทพมหานคร

และ 4) รุ่นพนักงานประจำของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 7 ผลงาน รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 5,000 บาท ได้แก่ ผลงาน “4 รู้… สู่ความมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” โดย นายอิฐประวรรตน์ กลิ่นจันทน์ รางวัลรองชนะเลิศ มี 2 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัลรางวัลละ 2,500 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “กำไร-เกื้อกูล” โดย นางสาวสวรรยา ภูมิปกรณ์ และผลงานที่ 2 “งอนเสียเปล่า” โดย นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์  รางวัลชมเชย มีทั้งหมด 4 ผลงาน ได้รับโล่เกียรติยศ และเงินรางวัล 1,500 บาท ได้แก่ ผลงานที่ 1 “ตลาดหลักทรัพย์เคียงคู่คิดชีวิตชาวไทย” โดย นายชยุต รังสีวรรธนะ (นามปากกา “Endever”) ผลงานที่ 2 “ทอง” โดย นางสาวพิมพ์ลดา ศิวศักดิ์ศรัณ ผลงานที่ 3 “ไม่น่าเลย” โดย นางสาวรพีพร วิศวไพบูลย์ และผลงานที่ 4 “ไม่รอ” โดย นางสาวสุพรรษา ลายเมฆ ซึ่งมีมูลค่าเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 340,000 บาท โดยสามารถติดตามผลการประกวดและบทกวีนิพนธ์ที่ได้รับรางวัลได้ที่ SET Social Media