ธุรกิจ-ตลาด

สสว. เดินหน้า SME Privilege นำทัพ SME ไทย ลุยตลาดจีน ร่วมแสดงสินค้า เจรจาธุรกิจ ในงาน “Gift & Houseware Fair Cultural & Creative Tourism Commodities Fair” นครเฉิงตู คาดสร้างมูลค่าทางเศรษกิจ ไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สสว. ได้นำผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีไทย จำนวน 10 ราย เข้าร่วมแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ในงาน “Gift & Houseware Fair Cultural & Creative Tourism Commodities Fair” ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติ Century City นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ SME Privilege ของปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการ 3 มิติ คือ ส่วนลดสินค้าและบริการ ขยายช่องทางการตลาด และเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน โดยการนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานครั้งนี้ เป็นกิจกรรมสำคัญของการขยายช่องทางการตลาด เพราะปัจจุบันอุตสาหกรรมของขวัญและของใช้ในบ้านของจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี ค.ศ. 2025 นี้ คาดว่าจะมีมูลค่ารวมถึง 1,449.8 พันล้านหยวน จึงนับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายช่องทางการตลาดและเพิ่มยอดส่งออกให้มากขึ้น

รักษาการ ผอ. สสว. กล่าวต่อว่า งานดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 45,000 คน มีบูธแสดงและจำหน่ายสินค้าต่างๆ กว่า 800 บูธ บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร ซึ่ง สสว. ได้จัดทำ “Thailand Pavilion” ซึ่งออกแบบสะท้อนอัตลักษณ์ไทย เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของผู้ประกอบการไทยในเวทีนานาชาติ และสร้างความประทับใจที่แตกต่าง ผ่านดีไซน์ที่ผสมผสานความร่วมสมัย เข้ากับวัสดุธรรมชาติ ภายใต้แนวคิด “Crafted by Thai Hands, Designed for Global Eyes” สร้างความประทับใจสื่อถึง Smart Simplicity และ Sustainable by Design

ขณะที่ผู้ประกอบการทั้ง 10 รายที่ผ่านการคัดเลือกประกอบด้วย บริษัท ไทยชิลลี่ฟูดส์ 999 จำกัด เป็นผู้จำหน่ายและผลิตสินค้าอาหารแปรรูป น้ำพริกในรสชาติต่างๆ อาทิ น้ำพริกเผาปลาแซลมอน ต้มยำกุ้งกรอบ (แบรนด์ชิลลี่เด้/ Chillide) บริษัท ระฆังทอง198 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องประดับ จากวัตถุหลายชนิด อาทิ ทองคำ เงิน ทองเหลือง (แบรนด์ระฆังทอง/RAKHANGTHONG) บริษัท ริชชี่ ไรซ์ โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าทำจากข้าวหอมมะลิอบ (ไม่ทอด) ไม่ใส่ผงชูรส ปราศจากกลูเตน และไม่มีสารกันบูด (แบรนด์ริชชี่ ไรซ์/Richy Rice) บริษัท อุดมกิจไพศาล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องเทศ สมุนไพร ผักอบแห้ง อาหารทะเลผง และชุดทำอาหารไทย (แบรนด์อุดมกิจ/UDOMKIJ) บริษัท โคโค่บิวตี้เนเชอรัลโปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวจากธรรมชาติ น้ำมันมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ (แบรนด์ลา บริส เลอ บลูม/Labliss Lebloom) บริษัท ลิ้มเซ่งฮึง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ยาหม่อง ยาแคปซูล ยาลูกกลอน และยาแผนโบราณ (แบรนด์ศิลาทอง/V.vickly) บริษัท พรีม่าเพิร์ล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องประดับที่ทำมาจากไข่มุก (แบรนด์พรีม่าเพิร์ล/PRIMAPEARL) บริษัท สบาย เฮิร์บ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องหอม ถุงสมุนไพรไทย (แบรนด์สบาย โฮม สปา/SABAI HOME SPA) บริษัท 42 เนเจอร์รัลรับเบอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ทำจากยางพารา อาทิ หมอนยางพารา (แบรนด์ 42 เนเจอรัล รับเบอร์/42 NATURALRUBBER) และบริษัท วี.เอส.ที. วู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยการนำชิ้นไม้ขนาดเล็กมาต่อกันเป็นแผ่นไม้ขนาดใหญ่ (แบรนด์ ฮาดร์ แอน แฮนด์/Hearts and Hands) คาดว่า บริษัทเหล่านั้น จะสร้างมูลค่าทางเศรษกิจ จากยอดขายและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

รักษาการ ผอ. สสว. กล่าวด้วยว่า สสว. ยังได้ร่วมประชุมหารือกับ CECC-CBEC (Cross-Border E-Commerce Working Committee of China Electronics Chamber of Commerce) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สำคัญที่สนับสนุนการพัฒนาอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของจีน โดยให้ความช่วยเหลือด้านนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการต่างชาติที่ต้องการเข้าสู่ตลาดจีน เพื่อเจรจาแนวทางการสนับสนุน MSME ไทยที่ต้องการขยายธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักของจีน เช่น Tmall Global , JD Worldwide และ Douyin E-Commerce รวมทั้งประชุมหารือกับ RX Huabo Exhibitions Co., Ltd. บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่เชี่ยวชาญด้านของขวัญและของใช้ในบ้าน โดยเฉพาะงาน The 17th China (Chengdu) Gifts & Houseware Fair ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาคที่เชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ค้า และแบรนด์สินค้าชั้นนำเข้าด้วยกัน เพื่อหาโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกับคู่ค้าและขยายตลาดไปยังผู้จัดจำหน่ายในจีน

นอกจากนี้ยังได้ประชุมหารือกับ Xiaoduo AI (Chengdu Xiaoduo Artificial Intelligence Technology Co., Ltd.) องค์กรชั้นนำด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พัฒนาโซลูชัน AI ครบวงจร โดยเฉพาะระบบ Chatbot อัจฉริยะและ AI Voice ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้า การขาย การบริหารจัดการ และระบบอัตโนมัติในองค์กร สำหรับกลุ่มธุรกิจ เอสเอ็มอีโดยมีจุดแข็งด้านการออกแบบโซลูชันที่ใช้งานง่าย ลงทุนต่ำ และปรับขนาดได้ตามความต้องการ เหมาะสำหรับ เอสเอ็มอีที่ต้องการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล และยังได้มีการประชุมหารือความร่วมมือด้านการค้าและอีคอมเมิร์ซกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของไทยที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดเข้าสู่จีน โดยเฉพาะในเขตมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในภาคตะวันตกของประเทศจีนอีกด้วย

“สสว. พยายามแสวงหาโอกาสต่างๆ ให้แก่ผู้ประกอบการผ่าน SME Privilege เพื่อให้สามารถพัฒนาศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจ เพื่อเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่นเศรษฐกิจของประไทย โดยครั้งนี้ “Thailand Pavilion” ภายในงานได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยมียอดสั่งซื้อภายในงานกว่า 20 ล้านบาท มีการเจรจาการค้ากับผู้ซื้อที่สนใจรวมกว่า 600 ราย และมีมูลค่าการสั่งซื้อคาดการณ์ภายใน 1 ปี กว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการลงนามความร่วมมือร่วมกันระหว่าง บริษัท เทค อี-บิสสิเนส เซ็นเตอร์ จำกัด (TeC e-Business Center) และ บริษัท RX Huabo Exhibitions Co., Ltd. ที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนแสวงหาแนวทางสร้าง Privilege ให้แก่ผู้ประกอบการต่อไป โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียด และเลือกใช้ Privilege ต่างๆ ได้ที่แอปพลิเคชัน SME Connext ของ สสว. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รักษาการ ผอ.สสว. กล่าว