วว. มุ่งเดินหน้าโครงการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เตรียมเกษตรกรรับมือ PM 2.5 ช่วงฤดูหนาว

เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยมักประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มสูง เนื่องจากความกดอากาศและลมที่พัดพาฝุ่นจากพื้นที่เกษตรและป่าไม้เข้าสู่ชุมชน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมี ดร.อนันต์ พิริยะภัทรกิจ นักวิจัยอาวุโส หัวหน้าโครงการ พร้อมเครือข่ายทีมวิจัย ได้ดำเนินโครงการ “การปลูกเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5” ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยา โดยมุ่งเน้นทั้งการสร้างรายได้และการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ความก้าวหน้าของโครงการล่าสุด ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน 6 เดือน เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยาได้รับการให้ความรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ซังข้าวโพด ฟางข้าว และเศษใบไม้ ให้สามารถนำมาใช้เป็นวัสดุปูคลุมดินหรือปุ๋ยอินทรีย์แทนการเผา ผลการดำเนินงานแสดงให้เห็นว่าเกษตรกรพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเกษตรและเตรียมรับมือกับภาวะฝุ่น PM 2.5 ที่มักเพิ่มสูงในช่วงฤดูหนาวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เกษตรกรยังได้รับการถ่ายทอดเทคนิคการ ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและดอกไม้กินได้ เช่น เบญจมาศ มากาเร็ต คัตเตอร์ อัญชัน และเก็กฮวย ซึ่งเป็นพืชที่เหมาะสมต่อสภาพอากาศแห้งในช่วงฤดูหนาว และสามารถสร้างรายได้เสริม ทั้งนี้ ผลผลิตสามารถนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่า เช่น สบู่ไบโอชาร์ ชาดอกไม้กินได้ และผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม

โครงการนี้จึงเป็นการผสมผสานระหว่างการ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และการ ลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ในช่วงหน้าหนาว พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดการเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอย่างเป็นรูปธรรม

รูปภาพที่ 1 การอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการทั้งในจังหวัดเชียงรายและพะเยา แนวทางการเก็บเกี่ยวไม้ดอกไม้ประดับและการนำไม้ดอกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ การทำวัสดุปรุงดินจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ต.ธารทอง อ.พาน จ.เชียงราย

รูปภาพที่ 2 การอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้การทำวัสดุปรุงดินจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการ