Thursday, October 31, 2024
Latest:
ประชาสัมพันธ์

Domestic Fam trip 2022 กรุงเทพฯ – จันทบุรี – ตราด เตรียมความพร้อม พบความใหม่ เส้นทางไมซ์ ….ต่อยอดรายได้ชุมชนแบบยั่งยืน

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)หรือทีเส็บ มอบหมายให้ทางโน้ตเอบิ้ล แบงค์คอก จำกัด ดำเนินกิจกรรม Domestic Fam trip 2022 เส้นทางจันทบุรี – ตราด  เพื่อสร้างการรับรู้ ถึงความพร้อมในการรองรับการจัดการประชุม สัมมนา  ภายในประเทศแต่ละภูมิภาค เพื่อสำรวจองค์ประกอบไมซ์ และเส้นทางไมซ์ของเมือง เพื่อให้นำมาต่อยอด สำหรับการบูรณาการของกิจกรรมไมซ์ และเส้นทางไมซ์ ใหม่ ๆ ร่วมกันในอนาคต  รวมถึงผลิตภัณฑ์ ไมซ์จากชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ อันจะก่อให้เกิด การสร้างรายได้แก่ชุมชนไมซ์ ในภูมิภาค ระหว่างวันที่ 20-21-22 กรกฎาคม 2565

หลังจากที่ได้ กำหนด การภายใต้กิจกรรม “Find The Sunset” จ.จันทบุรี และ จ.ตราดที่ทางทีม โน้ตเอเบิ้ล แบงค์คอก  ส่งให้ผู้ร่วมทริป และสื่อมวลชน เตรียมจัดกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้า พร็อพไปร่วมสนุกกันแบบ exclusive ไม่ว่าจะเป็น ชุดนักขุดพลอย ร่อนพลอย และกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ที่เน้นชุดและรองเท้าที่ทะมัดทะแมง Beach Party ธีมสีธรรมชาติ เพื่อความสวยงามคู่กับพระอาทิตย์ตก ชุมชนเยี่ยมริมน้ำจันทบูรเก๋ ๆ

วันแรก เราเริ่มต้นเดินทาง  เตรียมสนุกกับกิจกรรม Find The Sunset และหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จาก MICE7Theme ที่จุดนัดพบ ปั้มปตท. โดยมีการตั้งจุดตรวจ ATK ให้นักเดินทางทุกท่านในทริป เป็นการยืนยันความปลอดภัยในการเดินทางร่วมกัน จะได้เที่ยวกันได้อย่างสนุกสนาน และไร้กังวลใดใด

จากนั้น ออกเดินทาง สู่จังหวัดจันทบุรี ดินแดนแห่งท้องทะเลภาคตะวันออก ที่เรารู้จักชื่อเสียงของเขามานานในเรื่องของผลไม้ขึ้นชื่ออย่างทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีทรัพย์ในดิน สินแร่พลอยที่โด่งดังอีกด้วย เราพักรับน้ำใบเตย และใบเล็บครุฑทอด เป็นเวลาคัมดริ้งที่สดชื่นและอร่อยเบาๆ เพราะเริ่มหิว แล้วพักทานมื้อกลางวันกันที่ “บ่อพลอยเหล็กเพชร” แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นบ่อพลอยอนุรักษ์ ที่เหลือไม่กี่แห่งในจังหวัด

เริ่มต้นเข้าสู่ทริปนี้…….อย่างเป็นทางการนิดนึง กับการกล่าวเปิดงาน   และต้อนรับเข้าสู่การเดินทางในครั้งนี้จาก คุณ นายสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักภาคกลางและตะวันออก  ก่อนแยกย้ายรับประทานอาหารกลางมื้อวันกับเมนูพื้นบ้าน   อย่างก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง และผัดไทเส้นจันทน์ แล้วก็เริ่มกิจกรรม ขุดหาพลอยบ่อธรรมชาติ ร่อนพลอยแบบวิธีโบราณ จากทายาทรุ่นที่สองของบ้านบ่อพลอย ถึงแม้จะมีฝนโปรยปรายแต่ การร่อนพลอยก็ยังเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และมาจบลงตรงร้านพลอยที่ให้ช้อปพลอยหลากสีและวิบวับจับใจด้วยกับเครื่องประดับหลากหลาย…

หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าเชคอินที่พัก ที่ ร.ร.แซนต์ ดูนส์ เจ้าหลาว บีช รีสอร์ท จังหวัดจันทบุรี เป็นโรงแรมสไตล์โมเดิร์น ติดทะเล ที่มีมุมมองหลากหลาย วิวสวย และมีขนาดใหญ่ สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนาได้ ที่บริเวณล็อบบี้ก็มีมุมให้เชคอินถ่ายรูปหลายมุม เราได้ห้องพักเตียงคู่ และเป็นห้องที่กว้างขวางเลยทีเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องครบครัน ที่ระเบียงมีมุมวิวทะเลเล็ก ๆให้ชื่นใจอีกด้วย

เก็บสัมภาระจัดของเข้าที่ นัดหมายอีกทีไปชมพระอาทิตย์ตกดินกันกับดินเนอร์มื้อค่ำ ที่ร้านมาร์ฮาด บีช หาดเจ้าหลาว ห่างไปจากที่โรงแรมที่พักแบบไม่ไกลมากนัก แนะนำสำหรับผู้มาพักที่นี่ ร้านอาหารอยู่ติดริมทะเล กว้างขวาง  โต๊ะนั่งใหญ่นั่งสบายเสียดาย ต้องย้ายเข้าร่มกันเพราะพี่ฝนพรำ แถมยังทำให้พระอาทิตย์หนีเราไปอีก แม้ฝนพรำแต่ก็ทำให้บรรยากาศดีงามไปอีกแบบ ด้วยเพลงจากดนตรีอะคูสติกเสียงดีมาขับกล่อม แถมได้ช้อป ชิมชิล ของดีจากร้านผู้ประกอบการในท้องถิ่นที่นำสินค้ามาตั้งบูธบริการที่ร้านอาหาร ได้อิ่มกับเมนูแนะนำของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็น แกงส้มไข่ปลาฯ ปูนิ่มผัดผงกระหรี่  ไข่ตุ๋นทะเลรวม ทอดมันกุ้ง ยำทะเลรวมมิตร  แล้วยังได้ของฝากติดมือกลับบ้านกันอีก…จะดีเกินปุยมุ้ย…

เริ่มต้นเช้าวันที่สอง ของการเดินทาง แต่เป็นเช้าแรก กับเมนูอาหารเช้าของโรงแรม   ที่นับว่า หลากหลาย ทั้งคาวและหวาน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวต้ม ข้าวผัด ไข่ดาว ไส้กรอก  สลัด เรียกว่าครบตามมาตรฐานอาหารเช้าแล้ว ยังได้เห็นเมนูแตกต่างอย่าง ขนมปัง สังขยา  ขนมหวานอย่าง เม็ดขนุน ทองหยอด ที่ลองชิมแล้วรสชาติดีงามอีกด้วย จบอาหารเช้าแบบไม่อยากจบเพราะอร่อยทุกเมนู ด้วยการเดินทางสู่จังหวัดตราด ดินแดนปลายสุดชายฝรั่งทะเลตะวันออก ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ชายหาดและเกาะที่สวยงาม แต่ยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญกว่าร้อยปีก่อนด้วย

เราเข้าเรียนประวัติศาสตร์อย่างสนุกสนาน ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองตราด กับคุณ จิณณวัทย์ อี๊ดเหล็ง ผช. เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์  ที่พาเราย้อนประวัติศาสตร์ของเมืองตราด ด้วยภาพเล่าเรื่อง แผนที่เมือง ของสำคัญ ตามห้องต่าง ๆ  แบบเพลิน  ๆ ขำ ๆ  เพราะมุขปิดท้ายโซนเล่าเรื่องของสำคัญแบบให้นักเรียนจำ ถ้าทำข้อสอบนี่คงได้คะแนนเต็ม เล่าย้อนประวัติศาสตร์ครั้งใด สิ่งหนึ่งที่คงไว้ซึ่งความภูมิใจของบ้านเราก็คือ การรักษาเมืองของกษัตริย์ของเรา ทุกรัชกาลที่ทรงพระปรีชาสามารถรักษา ประเทศบ้านเมืองให้รอดพ้นจากการยึดครองของต่างชาติ….และเมืองตราดก็เป็นเช่นนั้น และเราจะไม่ลืมประเทศฝรั่งเศสแน่นอน

จากนั้นเดินทางต่อด้วยมื้อเทียงที่ร้านอาหารทิวธารา ที่ขนาบข้างซ้ายขวาด้วยป่าชายเลน แบบกินลมชมวิว ด้วยเมนู ปูแกะ  น้ำจิ้มเด็ด  หมึกไข่นึ่งมะนาว น้ำพริกไข่ปู  ปูนิ่มทอดกระเทียม กระหล่ำทอดน้ำปลา  อิ่มกันแบบจุก ๆ ก่อนจะไปต่อด้วยกิจกรรม นั่งเรือชมธรรมชาติ ดูเหยี่ยว และปลูกป่าชายเลน  ณ ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ชุมชนไทยพุทธ – มุสลิม ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน โดยอาชีพหลักคือทำประมง เราล่องเรือไปด้วยบรรยากาศ แหงนมองฟ้า หานกเหยี่ยว 2-3 ตัว ที่บินวนไปมา โดยทริปเราไม่หาเนื้อหาปลาให้เหยี่ยว เนื่องจากเป็นการทำลายนิเวศน์ และเชื่อว่า ระบบการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ถึงไม่ยิ่งใหญ่ แต่จริงใจ จะเป็นเรื่องดีงามให้กับชุมชนมากกว่า ตามวัตถุประสงค์ ไมซ์ชุมชนอีกด้วย  และนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ก็ยินดีที่จะดูเหยี่ยว แบบนิดเดียว มากกกว่าหรูหรา แต่อนาคตมืดมน เพลินชมกับลมทะเล จนถึงป่าชายเลน ทีมเราส่งตัวแทนผู้กล้า หน้าตาดี ลุยลงโคลนปักกิ่งชำลงในน้ำ เพื่อรักษาสมดุลให้ป่า  มีน้ำมีนก มีปลา มีฟ้าเกื้อกูลระบบนิเวศน์กันต่อไป

ตกเย็นกลับโรงแรมด้วยด้วยมื้อค่ำ กับคอนเซ็ปต์ Beach Party ที่เต็มไปด้วยธีมสีสันเสื้อผ้าริมทะเล ของทีมและผู้ร่วมทริป กับบรรยากาศโต๊ะดินเนอร์สวยงาม พร้อมอาหารบุฟเฟต์ที่ต้องชมเพราะความอร่อยหลากหลาย และกับการเพิ่มเมนูท้องถิ่น อย่าง แกงหมูชะมวง ให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้ชิมอีกด้วย

โดยมื้อนี้มี คุณ สุพจน์ ภูติเกียรติขจร รองผู้ว่าราชการจังหวัด จันทบุรี ให้เกียรติมากล่าวทักทาย และเล่าเรื่องของดีเมืองจันท์  ดังคำขวัญที่ว่า “ จันทบุรีเมืองเกษตรปลอดภัย เศรษฐกิจมูลค่าสูง สังคมมีสุขบนวิถีพอเพียง”  ที่ทำเอาเสียดาย น่าจะอยู่ต่ออีกสัก 2 วัน จะได้ชิมและชมให้ครบทุกอย่างที่ท่านเล่ามา

วันสุดท้ายของทริปการเดินทาง หลังจากทานอาหารเช้า เรามุ่งหน้าสู่ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ในย่านเมืองเก่าจันทบุรี ที่เดิมเป็นชุมชนชาวจีน และญวนอพยพ แล้วก็เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของเมืองจันทบุรีในสมัยรัชกาลที่ 5  โบสถ์คริสต์ตั้งเด่นสง่างามตัดกับฟ้าครามให้เป็นจุดเชคอิน ของนักท่องเที่ยว และตึกแถวโบราณก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ที่ดีงามที่ชวนให้เราต้องแวะเก็บภาพไว้ในความทรงจำ กับการเดินชมตึกแถวริมน้ำที่ทอดยาวไปกับแม่น้ำ รำลึกประวัติศาสตร์ด้วยของฝากอย่างพริกไท ของลือชื่อ และขนมอีกหลายเมนูที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้  จบทริป 3 วันกันแบบประทับใจใส่กระเป๋ามาแบบไม่รู้ลืม เดินทางถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัย ขอบคุณ ทีเส็บ และ โน้ตเอบิ้ล แบงค์คอก…. ที่มอบความทรงจำที่ดีไว้กับ Domestic Fam trip 2022 เส้นทางจันทบุรี – ตราด บูรณาการไมซ์ และเส้นทางไมซ์ของเมือง ในครั้งนี้ยิ่งนัก……

#MICEDomesticFamTrip2022

#MICE7theme

#TCEB

#จันทบุรี #ตราด