ประชาสัมพันธ์

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก ททท. และพันธมิตรชั้นนำ เปิดแคมเปญยิ่งใหญ่ “The Great Collaboration for Thailand’s Tourism Ecosystem”

กรุงเทพฯ – บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ของไทยในรูปแบบ Retail-led mixed use ได้แก่ ธุรกิจศูนย์การค้าเซ็นทรัล, ที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำสร้าง Tourism ecosystem ยิ่งใหญ่ที่สุดทั่วประเทศ ขานรับนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ กระตุ้นท่องเที่ยวทั้งระบบทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ผ่านแคมเปญ“The Great Collaboration for Thailand’s Tourism Ecosystem” รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันรายได้ของประเทศที่ตั้งเป้าไว้กว่า 800,000 ล้านบาท พร้อมกลยุทธ์ชูศูนย์การค้าเป็น Cross-Region Platform กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองหลักเมืองรอง-กระจายรายได้ พร้อมอัดโปรโมชั่นดึงดูด และกระตุ้นการใช้จ่ายทัวร์ริสต์ทั้งในและนอกประเทศ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 สาขาทั่วประเทศ

โดยมีพันธมิตรชั้นนำร่วมผนึกกำลัง ได้แก่ TCEB, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ออนไลน์, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ CENTARA, โรงแรม Siam Kempinski, สายการบินบางกอกแอร์เวย์, คริสพลัส และพีลาโก้โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์, สายการบินไทย, สายการบินไทยสมายล์, สายการบินเวียตเจ็ทแอร์, สถาบันการเงิน บัตรเครดิต และ Payment ออนไลน์แพลตฟอร์ม Alipay, JCB, Mastercard, UnionPay, WeChat Pay เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ TRUE Corporation และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซการท่องเที่ยว KLOOK

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานแถลงข่าวครั้งนี้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาและพันธมิตรทุกท่าน คือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เติมเต็มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้สมบูรณ์ ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน โดยล่าสุด กรุงเทพมหานคร ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับ 1 ในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของโลกประจำปี 2565 จากรางวัล Asia’s Best Awards 2022 อันเป็นผลจากการที่สถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจรีเทล โรงแรม สายการบิน และพันธมิตรจากทุกแขนงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่ล้วนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผมขอขอบคุณการบูรณาการความร่วมมือของภาคเอกชนในครั้งนี้ ที่ช่วยติด Booster ให้ก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันการท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศให้กลับคืนมาอีกครั้ง” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบัน เรากำลังเดินทางสู่ช่วง Post-COVID Situation ผู้คนเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยว ในหลายประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ โดยอัตราตัวเลขทราฟฟิกศูนย์การค้าเซ็นทรัล กลับมาเกือบ 100% ทั่วประเทศ สำหรับทัวร์ริสต์มอลล์ ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา ฯลฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และธุรกิจโรงแรม ศูนย์อาหารก็ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มั่นใจยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจะเป็นไปตามเป้าที่ททท.วางไว้ที่ 10 ล้านคนในปี 2565 โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยล่าสุดถึงเดือนสิงหาคม มีจำนวนมากถึง 3.78 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 176,000 ล้านบาท สำหรับ Top 3 นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยมากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์ ตามลำดับ สำหรับภาพใหญ่ของการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาประเทศไทย เราได้วางกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อผลักดันให้ไทยเป็น Global Preferred Destination ด้วย 3 กลยุทธ์ ได้แก่

กลยุทธ์ที่ 1 Stimulate Spending & Spread income ชูบทบาทศูนย์การค้าเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง Retail & Tourism Ecosystem เข้าด้วยกัน เพื่อเติมเต็มการท่องเที่ยวทั้งระบบ ด้วยจุดแข็งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่มีสาขาทั่วประเทศ โดยมี 19 สาขา อยู่ใน 15 จังหวัดท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง โดยสิ่งที่เราจะทำเพื่อช่วยเติมเต็มภาคท่องเที่ยว ได้แก่ การจัดงานโปรโมทการท่องเที่ยว, งาน Hotel Fair, OTOP Market, โปรแกรมท่องเที่ยวชุมชนได้ทั่วประเทศแบบ Cross-Region เช่น งานท่องเที่ยวภาคใต้จัดที่เซ็นทรัลเวิลด์ หรือการจัดงานที่ภูเก็ต เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ ให้มาเที่ยวภูเก็ต เป็นต้น พร้อมจับมือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ดีไซน์ Customer Journey ตั้งแต่ Pre-arrival stage ไปจนถึง Mall arrival stage กระจายรายได้ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องใน ecosystem พร้อมทั้งกระตุ้นท่องเที่ยว local community ไปจนถึงจังหวัดใกล้เคียง โดยร่วมกับ

• ภาครัฐ ตั้งแต่ Tourism Sandbox, ร่วมกับททท. สำนักงานต่างประเทศ ดูไบ และฮ่องกง จัดทำ Fam Trip รวมถึง Co-Promotion ต่างๆ กับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว

• TCEB รองรับธุรกิจ MICE ซึ่งในอนาคตภาครัฐอาจต้องส่งเสริมการเป็นเจ้าภาพหรือ host งานระดับโลกมากขึ้น

• สถาบันการเงิน บัตรเครดิต รวมถึง Payment online platform ใน Ecosystem ทั้งระบบ อาทิ Mastercard รับของพรีเมียมเมื่อช้อปตามที่กำหนด และโปรแกรม cash back/ และ JCB, UnionPay, Alipay, WeChat Pay มอบสิทธิพิเศษ และโปรแกรมส่วนลดแบบอัดแน่น

• จัดทำ Welcome Package ร่วมกับร้านค้าในศูนย์ฯ และกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ส่วนลดพิเศษจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, Tops Market, Tops Online, Central Food Hall และส่วนลดจากร้านค้า-ร้านอาหารในศูนย์ฯ มูลค่ารวมกว่า 5,000 บาท และร่วมกับกลุ่มพันธมิตรโรงแรม มอบ Welcome Package นี้ให้ลูกค้าเมื่อเข้าพักที่โรงแรมต่างๆ รอบศูนย์ฯ

• TRUE Corporation สนับสนุนฟรีซิมการ์ดและ WiFi มอบให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกท่านที่มาศูนย์การค้า

• สายการบินชั้นนำ ทั้ง Bangkok Airways, Kris+ และ Pelago by Singapore Airlines, Thai Airways, Thai Smile และ VietJet Air เพียงแสดง Boarding Pass เมื่อมาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล รับสิทธิพิเศษ อาทิ Voucher ส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, Tops Market, Central Food Hall และ TOPS Online พร้อมรับคูปองฟรีเมนูอาหารไทยต้นตำรับเมื่อชอปครบตามมูลค่าที่กำหนด และพิเศษสิทธิ์เข้าใช้บริการ The Exclusive Lounge 1 ครั้ง สำหรับ 2 ท่าน ณ The Exclusive Lounge เฉพาะสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลวิลเลจ และสาขาเซ็นทรัลภูเก็ตสำหรับลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิกสายการบิน

• Travel แพลตฟอร์มออนไลน์ KLOOK จัดโปรฯ เฉพาะลูกค้าต่างชาติ รับฟรี Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท เมื่อใช้จ่ายครบ 2,000 บาท, ฟรี KLOOK discount code มูลค่า 200 บาท เมื่อใช้จ่ายครบ 2,000 บาทที่เซ็นทรัล อยุธยา และ 2,500 บาทที่เซ็นทรัลเวิลด์ และ เซ็นทรัล ภูเก็ต พร้อมจัดพื้นที่จุด Pick Up & Drop Off One Day Tour เพื่อบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล อยุธยา อีกทั้งยังเปิดให้บริการ KLOOK Downtown Service Counter บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่เซ็นทรัลเวิลด์

กลยุทธ์ที่ 2 Springboard Rising Cities : ขยายโครงการต่อเนื่อง ปั้นเมือง Rising Cities โปรโมทเมืองรอง จับคู่กับเมืองหลัก เช่น กรุงเทพฯ – ไปอยุธยา – สุโขทัย, เชียงใหม่ – ไปลำพูน – ลำปาง, ภูเก็ต – ไปกระบี่ เป็นต้น พร้อมชูจุดแข็งโครงการเซ็นทรัลที่เป็น Fully-Integrated Mixed-Use Development ครบวงจรทั้งศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโดมิเนียม, คอนเวนชั่นฮอลล์, ออฟฟิศ ยกตัวอย่างโมเดลปั้นเมืองรองได้ประสบความสำเร็จ เช่น เซ็นทรัล อยุธยา และจันทบุรี ที่เรายกระดับการท่องเที่ยวเมืองได้ทั้งระบบ พร้อมดึง local essence สร้างแลนด์มาร์กใหม่ให้เมืองผ่านดีไซน์ของโครงการ รวมถึงเข้าไป Engage กับชุมชน ร่วมกันชูเสน่ห์และจุดเด่นของจังหวัดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ช่วยสร้าง Local Wealth กระจายรายได้สู่ผู้คนในชุมชนได้จริง พร้อมจับมือพันธมิตรดีไซน์โปรแกรมท่องเที่ยวแบบอยู่นาน สร้าง Facilities Infrastructure ที่ส่งเสริมให้ท่องเที่ยวได้นานขึ้น เช่น ภาคใต้มีภูเก็ต เด่นเรื่องท่องเที่ยวในแบบ Luxury & Leisure / เชียงใหม่ เชียงราย สร้างเป็น Art Region เป็นต้น

กลยุทธ์ที่ 3 Spotlight on Global Shopping Destination: ผลักดันกรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นเมือง ช้อปปิ้งระดับโลก พัฒนา shopping destination หลากหลายฟอร์แมตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกประเภท เช่น เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต แห่งแรกของไทย, เซ็นทรัล ภูเก็ต ลักชูรี่ มอลล์ แห่งเดียวในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกของไทย, เซ็นทรัลเวิลด์ – ไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นแลนด์มาร์กจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมรีโนเวทโซนใหม่ ต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งโซน I (โซน ไอ) และ โซน Hug Thai Hug Craft จุดจำหน่ายสินค้าชุมชนและของฝาก, ตลาดจริงใจมาร์เก็ต จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรในชุมชนทั่วประเทศ และ Tourist Malls ในจังหวัดท่องเที่ยวทั่วประเทศมากกว่า 15 สาขา อาทิ เซ็นทรัล อยุธยา, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล สมุย เป็นต้น

โดยในทุกศูนย์การค้าของเรา เราส่งเสริมการจัด Festive events ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ อาทิ ตรุษจีน สงกรานต์ และเคาท์ดาวน์ เป็นต้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้าง Reason to visit นอกจากนี้ เรายังมีจุดบริการ Full Service Downtown VAT Refund ณ ศูนย์การค้าเดสติเนชั่น 3 สาขา ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล วิลเลจ และ เซ็นทรัล พระราม 9 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เราเชื่อมั่นในศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ครองอันดับ Top Global Destination มาโดยตลอด และด้วยวิสัยทัศน์อันแข็งแกร่งของภาครัฐ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่มีแผนการดำเนินงานชัดเจนและต่อเนื่องจะช่วย ‘พลิก’ และ ‘ฟื้น’ เศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมดันประเทศไทยครองแชมป์เดสติเนชั่นยอดนิยมของโลกอย่างต่อเนื่อง” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย